(https://myponpe.files.wordpress.com/2023/10/image-7.png)
วัดระดับความเค็มในอาหารได้อย่างไร ?
การวัดระดับความเค็มในอาหารสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัด "ความเค็มในอาหาร" หรือที่เรียกว่า "เครื่องตรวจหาปริมาณเกลือในอาหาร" เพื่อประเมินปริมาณโซเดียมในอาหารว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด และว่าเกินความต้องการของร่างกายต่อวันหรือไม่ เพื่อช่วยลดการบริโภคเกลือในอาหาร และเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
ค่าของปริมาณความเค็มในอาหาร
การวัดระดับความเค็มในอาหารสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
1. ระดับความเค็มที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมนุษย์ คือ ค่าความเค็มต่ำกว่า 0.7 เปอร์เซ็นต์ NaCl และปริมาณโซเดียมไม่เกิน 275.3 มก./100 มล.
2. ระดับความเค็มที่มีความเค็มปานกลาง คือ ค่าความเค็มอยู่ระหว่าง 0.7-0.9 เปอร์เซ็นต์ NaCl และปริมาณโซเดียมอยู่ระหว่าง 275.3-354 มก./100 มล. สามารถคำนวณกลับไปเป็นปริมาณโซเดียมได้
3. ระดับความเค็มสูง คือ ค่าความเค็มมากกว่า 0.9 เปอร์เซ็นต์ NaCl และปริมาณโซเดียมมากกว่า 354 มก./100 มล. ซึ่งถือว่าอันตรายและไม่ควรบริโภค
การดูแลสุขภาพด้วยการควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหาร
ควรจะเลือกกินอาหารที่มีปริมาณโซเดียมในอาหารต่ำ และรักษาระดับความเค็มในอาหารให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งสามารถวัดระดับความเค็มที่อยู่ในอาหารได้ โดยใช้เครื่องวัดความเค็ม (https://www.ponpe.com/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%87%E0%B8%A1.html)ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่าย ที่จะช่วยในการควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(https://myponpe.files.wordpress.com/2023/10/image-8.png)